จะหาวิธีตั้งรับหรือหาอารมณ์เจอได้อย่างไร? How to be aware of our emotion?
อันดับแรก รับรู้มันก่อน (Awareness) เอ้าแล้วจะรู้ได้ยังไง ตอบตรงไปตรงมา ต้องมีสติ (Mindfulness) แล้วจะมีสติได้อย่างไร? ไม่ตอบแต่จะถามกลับคืนว่า เรายังมีชีวิตอยู่่ไหม? เราเป็นคนหรือเป็นหุ่นยนต์?
คำถามต่อมาคือเป็นไปได้ไหมว่าเราอาจจะลืมไปเข้าหาแหล่งอัพเดทซอร์ฟแวร์เพราะเราถูกปิดกั้น หรือเราปิดกั้นตัวเองไม่ให้เข้าหา? นี่แหละที่เป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยได้หยุดคิดและถามกัน เพราะเรามัวแต่วุ่นวายกับอาการภายนอกว่า ทำไมมันช้า ทำไมไม่ได้ดั่งใจ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เราลืมอยู่นิ่งๆ และไตร่ตรองว่า ฮาร์ทแวร์เราโอเคไหม ซอฟ์ทแวร์เราทำงานปกติหรือเปล่า
อะไรที่ทำให้เราไมได้พูดคุยกับจิตวิญญาณของเรา ก็คือความยุ่งเหยิงในแต่ละวันของชีวิต เทียบได้ว่าถ้ารถวิ่งทั้งวัน แอร์เปิดตลอด คอมพิวเตอร์ไม่เคยได้หยุด แล้วเราจะเชคสภาพได้อย่างไรว่ารถ แอร์หรือคอมพิวเตอร์นั้นโอเคไหม? เราจะเห็นได้ง่ายในคอมพิวเตอร์ที่เปรียบเสมือนฮาร์ทแวร์หรือสมองของเรานั้น ถ้าเราเปิดโปรแกรมหรือแอพลิเคชั่นไว้เต็มไปหมด และแต่ละโปรแกรมก็ใช้ความจำ (Memory) ต่างกันบ้างก็มาก บ้างก็ต้องการความเร็วสูงในการให้งานมันออกมาได้ตามที่วาดหวังไว้ แต่เราจะเห็นได้ชัดว่า มันจะเกิด อาการแฮงค์ นั่นเอง คนเราก็ไม่ต่างกัน ถ้าเราพยายามที่จะทำอะไรหลายๆ อย่าง มากเกินไปสำหรับสมอง (ฮาร์ทแวร์) ที่อาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์แล้ว และหากสมองอาจจะไม่ค่อยเต็มที่และยังเปิดแอพพลิชั่นต่างๆ มารันเต็มไปหมด ในเวลาเดียวกัน เทียบง่ายๆ เหมือนเราเอาปัญหาของทุกเรื่อง มาสุมใส่ในเวลาเดียวกัน เช่น เรื่องที่ทำงาน เรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องสุขภาพ แล้วพยายามจะเค้นเอาผลลันธ์ หรือคำตอบออกมาให้ได้ว่าจะเป็นอย่างไร มันต้องใช้พลังงานเยอะมาก พื้นที่จัดเก็บไม่พอ หน่วยความจำก็ไม่พอ ความเร็วก็ไม่ถึง ก็จะเกิดการแฮงค์เหมือนกับคอมพิวเตอร์ได้เช่นกัน
ภาษาคนสมัยนี้เขาเรียนว่า Burn Out ร่างกายก็จะแสดงออก ไมว่าจะเป็นการเจ็บป่วย ปวดหัว นอนไม่หลับ กินไม่ได้ (หรือกินไม่หยุด) เกิดความผิดปกติไปหมด นั่นคือสัญญาณที่ส่งมาว่าน่าจะหยุดได้แล้ว เพื่อทำการเริ่มใหม่ (Restart) แต่เมื่อถึงความเป็นจริง เราจะพอใจไหมว่า ว่าคอมพิวเตอร์คลื่นที่ของเรา (มือถือ) เวลาจะใช้งานที ก็ร้อนไป โอเวอร์โหลดไป แล้วก็ดับลง ต้องรีสตาร์ทใหม่ทุกครั้งไป? คำตอบสำหรับหลายๆ คนก็คงไม่ชอบ และคงคิดว่าคงต้องหาทางแก้ไข ให้สามารถทำงานได้ และได้ดีกว่าเดิม เช่น หารุ่นใหม่ มีพื้นที่การจัดเก็บเพียงพอ มีความจำเพียงพอ มีความเร็วเพียงพอ และหารุ่นที่มีความเด่น เหมาะสมกับสิ่งที่เราใช้งานเขา เช่น ด้านเกม กราฟิค ต้องมีความเร็ว หรือความละเอียดต่างกันเป็นต้น
คนเราก็เช่นกัน ก็ต้องมาพิจารณาว่า เราเป็นอะไรที่แฮงค์รายวัน หรือเปล่า คือรับมาเยอะๆ แล้วก็ไม่รู้ตัว แล้วก็พังตลอด ถ้าเราไม่สามารถฟังค์ชั่น ทำงานได้ตามปกติตามเดิมที่เคยได้รับการลงโปรแกรมมาก็ต้องถามคำถามตัวเองส่วนนี้ให้ได้ เช่น ปกติ กินได้ นอนหลับ ทำงานเรื่องนั้นๆ ได้ดี แต่หลังๆ มา เริ่มมีอาการทางกาย ไม่สบายบ่อยๆ อาการทางกายเป็นอะไรที่ไม่ยากจนเกินไป สังเกตุและรับรู้ได้ง่าย แต่อาการทางใจนั้นอาจจะต้องตั้งใจ ตั้งใจสติให้ดีขึ้น เพื่อสำรวจจิตตน ว่า ถ้าไม่สามารถทำงานที่ตัวเองเคยทำได้ดี เริ่มจำไม่ได้ มักจะลืมบ่อยๆ หรือรู้สึกไม่อยากทำแล้ว รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา อาจเป็นสัญญาณทางใจที่เราจะต้องพักแล้วล่ะค่ะ
Comments