top of page
eatloeithailand

หนึ่งหน้า...น่าอ่าน...สิทธิเด็ก

ต่อเนื่องจากคำขวัญวันเด็กจากโพสต์ก่อนหน้านี้นะคะ มีอยู่ 3 คำหลักๆ ที่อยู่ในคำขวัญของปี 2566 นี้ คือคำว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ตั้งแต่ปี 2507 เป็นต้นมาก็เกือบจะ 60 ปีแล้ว คำขวัญในแต่ละปีก็ไม่ได้ต่างกันมาก เพราะสิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันนี้คือสิ่งที่แรกว่าหลักการและแนวคิดเชิงรวบยอด (Principle and conceptualized idea) ดังนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม คำศัพท์จะไม่เปลี่ยนเพราะแนวคิดและหลักการยังคงเหมือนเดิม


เอาล่ะค่ะกลับมาที่สามคำนี้เรามาขยายความกันก่อนดีกว่า ว่า หน้าที่ ความรับผิดชอบ ความมีวินัย และการใฝ่ความดี คืออะไร? ถ้าตอบภายในใต้แนวคิดที่ว่าเด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ผู้ใหญ่ก็ต้องการให้เด็กเป็นคนดี เพื่อที่จะได้กลายเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตที่มีวินัย รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนนั่นเอง (ถ้าผู้ใหญ่อ่านตรงนี้ ก็เป็นเหมือนการเล่นคำ คำขวัญวันเด็กคือคำขวัญให้ผู้ใหญ่ทำเป็นต้นแบบให้เด็กดูนั่นเอง)


แล้วเรามีสิทธิ์อะไรในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์หนึ่งคน เป็นเด็กและเป็นผู้ใหญ่ได้หนึ่งครั้ง และมีชีวิตได้ครั้งหนึ่งในโลกใบนี้? คำถามนี้เป็นเป็นคำถามที่ถามกันมาหลายชั่วรุ่น ถ้าจะพูดให้จบในบลอกนี้ก็คงไม่ใช่ (ไว้ค่อยกันต่อไปเรื่อยๆ ในรอบถัดๆ ไป) ถ้าอย่างนั้นเราตัดไปที่เรื่องของสิทธิเด็กที่คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ให้การยอมรับกันก่อนดีกว่านะคะ (เนื้อหาของสิทธิของเด็กในบลอกนี้ ประยุต์จากอนุสัญญาสิทธิเด็กประยุกต์ จากเว็บไซด์ https://www.unicef.org/thailand/what-is-crc)


1. สิทธิที่จะมีชีวิตรอด (Right of Survival)

สิทธิของเด็กสิทธิแรกเลย คือ “เด็กต้องมีชีวิตรอด” เด็กจะรอดตายและโตเองตามธรรมชาติไม่ได้ เด็กต้องได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หมอ พยาบาล ผู้ช่วยเหลือชีวิต หลังจากที่เด็กมีชีวิตรอดในทางกายภาพแล้ว ในทางกฏหมาย เด็กต้องได้รับการจดทะเบียนเกิด มีสิทธิที่จะมีชื่อ ได้สัญชาติ และได้รับการเลี้ยงดูจากบิดามารดาของตน ไม่ถูกแยกจากครอบครัว รวมทั้งได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างเหมาะสม เช่น บริการพื้นฐานในด้านปัจจัย 4 เช่น การสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานในยามเจ็บป่วย ในด้านโภชนาการ ก็ต้องมีอาหารที่ดีมีประโยชน์ที่เหมาะสำหรับเด็ก มีน้ำดื่มที่สะอาด ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุมชน ที่สะอาด


2. สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา (Right of Development)

สิทธิของเด็ก สิทธิที่สอง คือ การได้รับการพัฒนาให้มีการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจ เมื่อเด็กได้มีชีวิตรอดแล้วจากการได้รับพื้นฐานการมีชีวิตอยู่ที่ปลอดภัย โภชนาการที่เหมาะสมตามวัย เด็กต้องได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษาตามมาตรฐาน การศึกษาอย่างมีคุณภาพ ได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่หลากหลาย โดยมีพ่อแม่เป็นผู้คอยช่วยแนะนำ กรณีเด็กที่มีความจำเป็นพิเศษ เช่น เด็กพิการ ก็ต้องได้รับการดูแลให้มีชีวิตที่ปกติสุข ได้รับโอกาสพัฒนาและการศึกษาที่เหมาะสม ให้สามารถเติบโตพึ่งพาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ เด็กต้องได้รับการพัฒนาทักษะเฉพาะต่างๆ การพัฒนาความสามารถทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่จะทำให้เด็กๆ มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคต


3. สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง (Right of Protection)

สิทธิของเด็ก สิทธิที่สาม คือ การได้รับความคุ้มครองจากการใช้ความรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การคุ้มครองจากการใช้แรงงานผิดกฎหมาย การทำงานอันตราย คุ้มครองเรื่องการใช้สารเสพติด สารอันตราย สารมีพิษ คุ้มครองจากการค้ามนุษย์ การขายและการลักพาเด็ก การล่วงละเมิดทางเพศ และการแสวงประโยชน์กับเด็กในทุกรูปแบบ คุ้มครองการได้รับการช่วยเหลือจากกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่การให้ปากคำ ตลอดจนถึงการพิจารณาคดี จะต้องถือประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ การคุ้มครองสำหรับเด็กที่ถูกพรากจากครอบครัว จะต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ตามภูมิหลังทางชาติพันธุ์ ภาษา ศาสนาและวัฒนธรรมของเด็ก คุ้มครองในภาวะสงคราม เด็กๆ ต้องได้รับการคุ้มครองจากภัยสงคราม ไม่ถูกเกณฑ์เป็นทหาร หรือมีส่วนร่วมในการสู้รบ ในกรณีที่เด็กเป็นผู้ลี้ภัย จะได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการปกป้องคุ้มครองเป็นกรณีพิเศษ

4. สิทธิที่จะมีส่วนร่วม (Right of Participation)

สิทธิของเด็ก สิทธิที่สี่ คือ เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า เด็กๆ ควรได้รับโอกาศให้แสดงความคิดเห็น หรือเข้ามามีบทบาทในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะกับเรื่องที่ส่งผลกระทบ หรือมีส่วนโดยตรงกับตัวเด็กและเยาวชนเอง โดยความคิดเห็นดังกล่าวของเด็กจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังตามสมควรแก่อายุและวุฒิภาวะของเด็กคนนั้นให้เด็กมีพื้นที่ในการใช้ศักยภาพของตนเอง ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีสู่สังคม


Ask your question

  • สิทธิในการอยู่รอด

  • สิทธิในการได้รับการพัฒนา

  • สิทธิในการได้รับการปกป้อง

  • สิทธิในการมีส่วนร่วม




สรุปแล้วสิทธิของเด็ก ก็เป็นสิทธิพื้นฐานที่มนุษย์ต้องได้รับ การพูดถึงหลักการนี้ จึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ว่าจะระหว่างเด็กต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ต่อเด็ก หรือเพื่อนมนุษย์ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน กล่าวคือการตอบสนองต่อสิทธิและความดีงามที่เขา และเราได้รับจากครอบครัวและสังคมนั่นเอง


วันเด็กปีนี้ ข้อที่ 1 คือเขา/เรา รอดแล้ว แล้วข้อที่ 2 สิทธิในการได้รับการพัฒนา ข้อที่ 3 สิทธิในการได้รับการปกป้อง และที่สำคัญข้อที่ 4 สิทธิในการได้มีส่วนร่วม ปีนี้เด็กๆ และ ผู้ใหญ่เรา ได้ทำข้อไหน เช่น ทำอะไร ที่เป็นการขอบคุณสิทธิความเป็นมนุษย์กันบ้างเอ่ย?

コメント


bottom of page