top of page
eatloeithailand

ทำอย่างไรดีเพื่อให้มีการใช้ประโยขน์จากอารมณ์? What to do to improve emotion processing?


แล้วต้องทำอย่างไร จริงๆ ก็ไม่ยาก ก็ทำเหมือนเราทำกับคอมพิวเตอร์เท่าก็ได้ค่ะ นั่นคือต้องตั้งสติ ดังที่ได้ตอบไปแล้วว่า ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่แปลว่าเรามีสติ มีจิตวิญญาณ ให้เกิดความนิ่ง สงบ สบายใจก่อน เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับฮาร์ทแวร์หรือซอฟ์ทแวร์ของเรา ถ้าพักแล้วเราจะสามารถเปลี่ยนเครื่องได้เอาที่พื้นที่จัดเก็บเยอะ ความจำเพิ่มขึ้น และความเร็วแบบที่เราต้องการได้ไหม? ฮาร์ทแวร์เราไม่ว่าจะเป็นสมองหรือร่างกาย ณ เวลานี้ที่เขียน และผ่านมาแล้วกี่พันปี ก็เป็นความจริงอย่างหนึ่งที่รับรู้กันคือ เราได้มาแค่ชิ้นเดียว แถมจะมีการเสื่อมสภาพไปตามเวลา และพอถึงเวลาก็กลายสภาพเป็นอินทรีย์วัตถุหรือสสารไป (คือตายแล้ว นั่นเอง) ที่เขียนไว้แบบนี้เพราะเผื่อไว้ว่า ไม่แน่อาจจะในยุคนี้ก็ได้ที่มนุษย์ค้นพบการอยู่ได้ตลอดไปของคน แต่ความฉลาดของคนก็มีไม่น้อยเลยที่สามารถจะเปลี่ยนหรืออัพเกรดร่างกายส่วนต่างๆ ได้

แม้ฮาร์ทแวร์ของเราจะยากต่อการเปลี่ยน แต่ข่าวดีคือ เราสามารถที่จะอัพเกรดซอร์ฟแวร์ได้ตลอดเวลา เพราะจริงๆ แล้วเราได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาลอยู่แล้ว เปรียบเหมือนเรามี App Store / Play Store ที่ยิ่งใหญ่ แถมฟรีอีกต่างหาก ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเชื่อมต่อกับเขาไหม หรือจะดันทุรังใช้แอพเก่าๆ พังๆ ที่ใช้ไปแฮงค์ไป วิธีการในการเชื่อมต่อก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร แค่หยุด นิ่ง เรียกสติกลับคืนมา แล้วก็จะเกิดการรับรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง และเราจะทำอย่างไรต่อกับสิ่งที่เกิดขี้นภายนอกตัวเรา (Informational and Contextual Factor ที่ได้พูดถึงในตอนที่แล้ว) เราจะต้องรู้เท่าทันว่าว่าเมื่อเกิดสิ่งนี้ขึ้น เรารับรู้ด้วยอะไรบ้าง เราคิดตามแบบเป็นเหตุเป็นผลไหม (Logical Thinking) หรือเรารับรู้ด้วยความรู้สึก (Emotional Reception) ส่วนนี้แหละที่พูดมายาวนานเพราะว่า ทั้งสองส่วนนี้เป็นธรรมชาติให้มา และให้มาเพื่อใช้คู่กัน ไม่ได้ให้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่งจนหลุดสมดุลย์

คำว่าสมดุลย์ (Balance) ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความเท่าเทียม แบบเสมอๆ หรือว่า ครึ่งๆ นะคะ แต่สมดุลย์หมายถึงตามความเหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ การที่คนๆ หนึ่งเป็นคนมีเหตุมีผลก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะดีกว่า คนมีอารมณ์ แต่สังคมบ้านเรามักจะให้นิยาม กับคนที่มีอารมณ์ไปในทางลบ เช่น ทำไมเป็นคนเช่นนี้ ทำไมไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย หรือเป็นคนเจ้าอารมณ์ เป็นต้น และจะมีอีกสองคำที่จะมาเสริมเรื่องความสมุดุลย์คือเรื่องกาละเทศะ หรือเรื่องของเวลาและสถานที่นั่่นเอง ในตอนต่อไป จะพามากันไปเรียนรู้วิธีการตัดสินใจด้วยอารมณ์ดู เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าการใช้พลังงานส่วนอารมณ์นั้นมีคุณค่ามากมายไม่น้อย


4 views0 comments

Comments


bottom of page