top of page

หนังสือสร้างนิสัย The energy bus #7: Enthusiasm Attracts More Passengers and Energizes Them

ในบทที่ 20-24 ของหนังสือรถบัสพลังบวกนี้ เป็นเรื่องของการศึกษาว่าทําไมเราต้องมีความสุข มีความกระตือรือร้นและการใช้ชีวิตเชิงบวก โดยสามารถนำมาสรุปไว้ในกฎข้อที่ 7 ของการใช้ชีวิตเชิงบวกได้ว่า ความกระตือรือร้นจะดึงดูดพลังงานดีๆ เข้ามา และให้พลังกับคนขับ และให้พลังกับผู้โดยสารหรือคนที่เข้ามาร่วมทีมกับเรา


มีการกล่าวถึงรากศัพท์ด้วยว่ามันมาจากภาษากรีกโบราณ Entheheos แปลตรงตัวได้ว่ามาจากเบื้องบน เทียบได้กับความเขื่อในเรื่องความรักและพลังงานดีๆ ที่คนเชื่อไมว่าจะเป็นพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จักรวาล ความกระตือรือร้น จะให้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และ ความมีชีวิตชีวากับคน


กรณีของความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า มันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของอารมณ์ เขาบอกว่าอารมณ์ที่มาจากภาษาอังกฤษว่า emotion สะกดว่า E M O แปลว่า แปลว่าพลังงานที่มันขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา

เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา? เพราะว่าเขาได้มีการศึกษาว่าพลังงานที่มาจากจิตใจ แม้จะมองไม่เห็น แต่เราจะมีการรับรู้ได้ ถ้าเทียบเป็น physical sensory การรับรู้ทางกายภาพทั้ง 5 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย อารมณ์จะเป็นการรับรู้ทางใจ emotional sensory เป็น เซนส์ที่ 6 ได้แก่ใจและอารมณ์ในรูปแบบของพลังงาน


ดังนั้นพลังงานมันก็มีทั้งเชิงบวกเชิงลบ ในการที่เราจะเป็นผู้นํา หรือจะเป็นผู้ขับรถที่จะขับเคลื่อนชีวิตเราไป เราจึงต้องพยายาม ที่จะให้อยู่ในโหมดที่มันรู้สึกดี ปรี้ประเปร่า ความสดชื่น ความสุข ความรู้สึกขอบคุณ ชื่นชม รัก หลงใหล ใส่ใจในสิ่งที่ทํา ตื่นเต้น ฯลฯ ซึ่งเป็นความรู้สึกเชิงบวกนั่นเอง


ในการที่เราจะเป็นผู้นําในองค์กร หรือแม้แต่เป็นผู้นําชีวิตของเราเอง คนที่เราไปทํางานด้วยหรือคนที่เกี่ยวข้องกับเรา เขาไม่ได้สนใจหรอกว่า เกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเรา เรียนจบอะไรมา เก่งเรื่องอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา พื้นฐานการศึกษา และความเชี่ยวชาญของเรา เป็นเพียงหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ได้ทําอะไรมาบ้างแล้ว


แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่ต้องอธิบาย แสดงให้ใครเห็น แต่คนทั่วๆ ไปจะสามารถรับรู้ได้ก็คือเรื่องของความรู้สึก ที่มันมาจากจิตใจของเรานั่นเอง เพราะว่ามันมีพลังงาน ที่แผ่กระจายความรู้สึกนี้ออกไปซึ่งอาจจะแรงและชัดกว่าประสบการณ์ชีวิต การทำงาน ความถนัด หรือพูดง่ายๆ สัญญาณที่แผ่ออกไปจากอารมณ์ความรู้สึกนี้ จะมีความแรงและชัดเจนกว่าที่มาจากสมองเสียอีก





ดังนั้นเมื่อเรามีความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นบวก หรือ ลบ ตื่นเต้น สงบ โกรธ หรือประหม่า ให้เรารับรู้ว่า เรากําลังรู้สึกอะไร และก็พยายาม จัดความรู้สึกของเรา เนี่ย ให้มันอยู่ในหมวดที่เป็นบวกหรือเป็นประโยชน์ให้ได้ ง่ายๆ เช่น ถ้าเรารู้สึกดีคนรอบรอบข้างก็จะรู้สึกดีด้วย ถ้าเรารู้สึกตื่นเต้น รู้สึกถึงมองไปข้างหน้าในอนาคตแบบมีหวัง คนรอบข้างที่เป็นผู้โดยสารร่วมเดินทางมากับทีมเราก็จะรู้สึกเช่นนั้นด้วย

กลับมาปิดท้ายด้วยประโยคเดิมค่ะ มาฝึกไปพร้อมๆ กันนะคะ


bottom of page